แบล็คลิส กับประวัติเครดิตส่วนบุคคล เงื่อนไขที่ควรรู้ก่อนกู้สินเชื่อ
บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินคำว่า “แบล็คลิส” ไปอยู่ในบริบทต่าง ๆ โดยเฉพาะการทำเรื่องกู้เงินหรือสินเชื่อ โดยการติดแบล็คลิสจริง ๆ แล้วคืออะไร ใช่อย่างที่หลาย ๆ คนคิดหรือไม่ เราจึงอยากชวนทุกคนที่มีความสงสัยมาไขคำตอบเกี่ยวกับแบล็คลิสต์ไปด้วยกัน โดยมีหลาย ๆ เรื่องที่ต้องศึกษา ทั้งข้อมูลเครดิต สถานะทางบัญชี การรายงานข้อมูลเครดิต รวมทั้งการตรวจสอบแบล็คลิสต้องทำอย่างไร เช็คแบล็คลิสออนไลน์ได้ไหม ติดแบล็คลิสกี่ปี รวมไปถึงจะมีวิธีแก้ไขทำให้สถานะกลับมาสู่สภาวะปกติได้อย่างไร ในปี 2024 หรือ 2567 นี้ ใครที่วางแผนจะทำเรื่องของสินเชื่อเพื่อเป้าหมายต่าง ๆ ก็ควรเร่งทำความเข้าใจกับข้อมูลแบล็คลิสเหล่านี้จะได้จัดการได้อย่างถูกต้อง
แบล็คลิส คืออะไร ปรับมุมมองให้เข้าใจให้ถูกต้อง
ก่อนจะไปทำความเข้าใจว่า แบล็คลิสคืออะไร ก็ต้องมารู้จักกับต้นทางอย่างข้อมูลเครดิตกันก่อน ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการชำระหนี้ของแต่ละบุคคล โดยจะมีสถานะที่แตกต่างกัน โดยแบล็คลิส ซึ่งในความเป็นจริงการขึ้นแบล็คลิสต์นั้น ไม่ได้มาจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือที่เรียกกันติดปากว่าติดเครดิตบูโรแต่อย่างใด การที่สถาบันการเงินปฏิเสธการให้สินเชื่อกับรายชื่อผู้ติดแบล็คลิสนั้น ไม่ได้มาจากสาเหตุที่มีประวัติไม่ดีเกี่ยวกับชำระหนี้เท่านั้น ยังมาจากเหตุผลอื่น ๆ ก็เป็นไปได้ว่าจะเป็นติดแบล็คลิส เนื่องจากไม่เข้าเกณฑ์หรือเงื่อนไขในการปล่อยกู้ หรือพิจารณาแล้วว่าผู้ที่ติดแบล็คลิสมีภาระหนี้คงค้างเยอะเกินไป จนอาจะทำให้ไม่สามารถชำระหนี้คืนได้
แบล็คลิส กับระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลเครดิตของแต่ละคน
ติดแบล็คลิสกี่ปีหาย น่าจะเป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลาย ๆ ท่านสนใจและสงสัย สำหรับท่านใดที่มีรายชื่อผู้ติดแบล็คลิสในบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ โดยตามกฎหมายจะมีข้อกำหนดไว้ว่าสำหรับบุคคลธรรมดาที่ติดแบล็คลิสจะมีการเก็บประมวลข้อมูลไว้มีอายุความไม่เกิน 3 ปี ส่วนกรณีเป็นนิติบุคคลจะไม่เกิน 5 ปี นับจากวันที่สถาบันการเงินรายงานข้อมูลมายังบริษัท โดยจะมีข้อมูลใหม่เข้ามาแทนที่อยู่ตลอด ผู้ที่เคยติดแบล็คลิสจึงมีโอกาสกลับไปสู่สถานะปกติได้เช่นเดียวกัน โดยท่านเช็คแบล็คลิสออนไลน์ฟรีผ่านออนไลน์ทางแอพลิเคชั่นของธนาคารต่าง ๆ ซึ่งการเช็คแบล็คลิสนั้นจะมีค่าดำเนินการจัดส่งเอกสารผ่านทางอีเมล์หรือไปรษณีย์ โดยก่อนที่จะดำเนินการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินใด ๆ เพื่อความมั่นใจก็ควรทำการแบล็คลิสเช็คก่อนจะดีกว่า
แบล็คลิส กับวิธีการแก้ไขข้อมูลเครดิตให้
ติดแบล็คลิสแก้ยังไง เป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่เคยสร้างประวัติไม่ดีด้านการชำระหนี้ไว้ สิ่งที่พอจะสามารถทำได้ ก็คือ การสรุปยอดหนี้ค้างที่ทำให้ประสบปัญหาติดแบล็คลิส แล้วรีบหาเงินก้อนมาปิดหนี้นั้นให้หมดโดยเร็วที่สุด และวิธีการป้องกันไม่ให้มีข้อมูลแบล็คลิสต์เข้าสู่ระบบเพิ่มอีก ก็คือ การสร้างวินัยในการก่อหนี้ และชำระหนี้ให้ตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ และหากมีปัญหาแบล็คลิสก็ควรไปเจรจากับสถาบันการเงินที่ผูกหนี้ไว้ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ด้วยการรีไฟแนนซ์ ซึ่งสามารถตรวจสอบและขอคำปรึกษาเพื่อหาทางออกที่ลงตัว สำหรับการขจัดปัญหาติดแบล็คลิสให้หมดไป ทำให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อที่ต้องการได้อีกครั้ง
